“มาเรียนโน่ ดิอาส” จากคนไร้ค่า สู่เบอร์ 7 อันทรงคุณค่า ของราชัน

 

ตลอดช่วงเวลา 20 ปีที่ผ่านมา รีอัล มาดริด ไม่เคยขาดผู้นำทัพที่สวมใส่หมายเลข7 ของทีมเลย

ย้อนกลับไปในช่วงของยุค “ราอุล กอนซาเลซ” ในครั้งสมัยที่เขายังเป็นดาวเตะของทีม เขาก็ได้พาทีมเถลิงบันลังก์แชมป์ให้กับ รีอัล มาดริด มากมาย

ก่อนที่หมายเลขอันทรงเกียรตินี้จะถูกถ่ายโอนสู่สุดยอดนักเตะระดับโลกแห่งยุคอย่าง “คริสเตียโน่ โรนัลโด้” ตลอดเวลา 9 ปี ของโรนัลโด้ เขาพาทีมคว้าแชมป์ทุกอย่างของรีอัล มาดริด

ก่อนที่สุดท้าย เขาจะปัดให้ความสำเร็จทุกอย่างเป็นเพียงภาพจำ หลังจากที่เขาตัดสินใจออกไปหาความท้าทายใหม่กับม้าลาย “ยูเวนตุส” และทิ้งเสื้อหมายเลข 7 ของทีม ที่เป็นหมายเลขแห่งตำนานนั้นว่างลง

ล่าสุด ชื่อของ “มาเรียนโน่ ดิอาส” ได้ถูกเปิดตัวเป็นสมาชิกใหม่ของขุนพลราชันชุดขาว พร้อมกับข่าวที่โด่งดังไปทั่วโลก กับการที่เขาได้รับหมายเลขเสื้อของทีม นั่นคือหมายเลข 7

อะไรทำให้ มาเรียนโน่ ดิอาส เป็นผู้ถูกเลือกในการเซ็นต์สัญญาซื้อตัวมาร่วมทีมรีอัล มาดริด และอะไรทำให้สโมสรมั่นใจในการมอบเสื้อหมายเลข 7  อันทรงคุณค่านี้ ให้กับนักเตะคนนี้ และนักเตะคนนี้เป็นใคร มาจากไหน

หลายคนอาจจะไม่คุ้นชื่อของ มาเรียนโน่ ดิอาส นักเตะวัย 25 ปี คนนี้นัก หากคุณไม่ใช่แฟนบอลของลีกเอิง ฝรั่งเศส แต่ทว่า แฟนบอลราชันชุดขาวส่วนใหญ่รู้จักเขาผู้นี้เป็นอย่างดี

เพราะในสมัยดาวรุ่ง เขาคือหนึ่งในนักเตะดาวรุ่งเพชรงามของทีมราชันชุดขาว รีอัล มาดริด มาก่อนหน้านี้

มาเรียนโน่ ดิอาส คือนักเตะที่เคยผิดหวังจากการที่เขาถูกปล่อยตัวออกจากทีมรักที่เขาอยู่มาอย่างยาวนาน  และหวังว่าสักวัน เขาจะต้องก้าวขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่ของรีอัล มาดริด ให้จงได้

ผลงานการพิสูจน์ตัวเองจากการที่เขาลงเล่นให้กับรีอัล มาดริดชุดสำรอง และยิงประตูไปทั้งหมดถึง 15 ประตู และเป็นนักเตะดาวรุ่ง ที่ได้รับการจับตามอง และถูกชื่นชมจากหลายคนในทีม

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อดีตโค้ดอย่าง ซีเนดีน ซีดาน และกองหน้ารุ่นพี่อย่าง คาริม เบนเซม่า เหมือนว่าอนาคตที่สดใสในทีมรีอัล มาดริดชุดใหญ่กำลังรอ มาเรียนโน่ ดิอาส อยู่

เมื่อทุกอย่างกำลังเดินมาถูกทาง และอยู่ในช่วงเวลาอันดี ทั้งอายุ และผลงานการลงเล่นที่เขาพร้อมแล้วที่จะพิสูจน์ตัวเองในเวทีลาลิก้า

แต่กำแพงของผู้เล่นระดับซุปเปอร์สตาร์ที่สูงตะง่านที่กั้นเขาไว้จากดาวรุ่งไม่ให้เป็นดาวดังได้ในที่สุด

ทำให้มาเรียนโน่ ดิอาส มีโอกาสได้ลงสนาม เพื่อโชว์ผลงานตัวเอง ได้เพียงแค่ 8 นัด และทำได้เพียง 1 ประตู

รวมไปถึงในขณะนั้น ทีมรีอัล มาดริด ได้มีกองหน้าดาวรุ่งฝีเท้าดี ไม่แพ้มาเรียนโน่ ดิอาส อยู่หลายคน อย่างเช่น “บอร์ฆ่า มาโยรัล”

และแม้ว่าฝีเท้าของมาเรียนโน่ ดิอาส จะไม่เป็นรองดาวรุ่งคนอื่น ๆ ในทีม แต่เรื่องของอายุ เขากลับเป็นดาวรุ่งที่อายุมากที่สุดในตอนนั้น

ดังนั้น จึงเป็นสิ่งที่สโมสร ต้องเลือกและตัดสินใจ ที่จะปล่อยให้มาเรียนโน่ ดิอาส ออกจากสโมสรไป

และเก็บดาวรุ่งอายุน้อย ที่สามารถปลุกปั้น และใช้งานได้นานกว่าเก็บไว้ และสุดท้าย ความผิดหวัง จึงตกเป็นของมาเรียนโน่ ดิอาส ในที่สุด

แม้ว่าชีวิตจะต้องเจอกับความผิดหวัง และดูไร้ค่า แต่ใช่ว่าชีวิตของเราจะไม่มีวันสมหวังอีกเลย โอลิมปิก ลียง คือทีมที่ยื่นมือเข้ามาฉุด มาเรียนโน่ ดิอาส ออกจากความผิดหวังที่ซานเตียโก เบร์นาเบว

และมอบโอกาสให้เขา ได้สวมรองเท้าสตั๊ด วิ่งออกไปสู่ และไล่ล่าประตูอีกครั้งที่ฝรั่งเศส และหยุดช่วงเวลาแห่งการพิสูจน์ตัวเอง ในฐานะนักเตะดาวรุ่งของรีอัล มาดริดทั้งหมด 5 ปี ไว้เพียงเท่านั้น

จากนักเตะที่ไร้ค่ากับราชัน มาเรียนโน่ ดิอาส ได้รับบทพิสูจน์ตัวเองกับความกดดันที่เพิ่มไปอีกขั้น ในการเป็นตัวแทนของ อาแล็กซ็องดร์ ลากาแซ็ต ที่ย้ายออกจากทีมลียง ไปอยู่กับอาเซนอลในตอนนั้น

เพราะผลงานลากาแซ็ตที่ทิ้งไว้กับลียง กับนักเตะที่ทำลายสถิติยิงได้ 100 ประตูให้กับลียง คือความกดดันชิ้นโต และความคาดหวังจากแฟนบอล ว่ามาเรียนโน่ ดิอาส จะทำได้ดี เท่าขวัญใจคนเก่าที่จากไปหรือไม่

แต่เหมือนกับว่า การลงสนามให้กับลียงของมาเรียนโน่ ดิอาส จะทำได้น่าตื่นตาตื่นใจให้กับแฟนบอลลียงเป็นอย่างยิ่ง จากการที่เขายิงไปถึง 4 ประตู จากการลงสนาม 5 นัดแรก ทำให้เขาเป็นกองหน้าที่ออกสตาร์ทได้ดีที่สุดให้กับลียงในรอบ 20 ปี เลยทีเดียว ซึ่งทำให้เหนือว่า ลากาแซ็ต, ลิซานโดร โลเปซ รวมไปถึง โจวานนี่ เอลแบร์ อดีตนักเตะกองหน้าฝีเท้าฉกาจน์ที่เคยลงสนามให้กับลียงทั้งสิ้น

วันเวลาเดินผ่านไป แฟนบอลลียง เริ่มละเลยและลืมความรู้สึกคิดถึงและเสียดายอดีตกองหน้าตัวเก่งของเขาอย่าง “ลากาแซ็ต” เพราะการที่มีชื่อเป็นผู้ทำประตูของมาเรียนโน่ ดิอาส ที่มีให้กับทีมอยู่เรื่อยๆ

มาเรียนโน่ ดิอาส ยิ่งเล่นยิ่งมั่นใจ และยิ่งแสดงให้เห็นถึงการเป็นนักเตะกองหน้าที่โดดเด่น จากสไตล์การเล่นที่มีความรวดเร็ว ชื่นชอบในการพาบอลไปกับตัว

นอกจากนี้ เขายังเล่นลูกกลางอากาศได้ดี และเต็มเปี่ยมไปด้วยสัญชาติญาณของตัวกับสกอร์ เขามักจะทำประตูกับการเข้าชาร์จบ่อยๆ

นั่นก็เป็นเพราะว่า ศูนย์หน้ารายนี้ มักจะมีความสามารถในการหาที่ว่างได้ดี และมักจะอยู่ถูกที่ถูกเวลาเสมอ

และทีเด็ดนั่นก็คือ ลูกยิงอันทรงพลังจากนอกกรอบ ที่เป็นอาวุธหนัก จนหลายคนพูดกันว่า เขาเหมือนกับฝังปืนใหญ่ไว้ใต้เท้าเลยทีเดียว

                                  

ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่เขาได้พิสูจน์ตัวเองให้ทุกคนได้เห็นแล้วว่า เขากลับมาเกิดใหม่ได้เต็มตัวอีกครั้งกับสโมสรโอลิมปิก ลียง และสถาปนาตัวเองขึ้นมาเป็นกองหน้าฝีเท้าดีคนหนึ่งของเวทีฟุตบอลยุโรป ณ เวลานี้

แต่ก็ไม่มีใครที่จะลืมความรักครั้งเก่าได้อย่างง่ายดาย แม้ว่ารักครั้งนั้น มันจะทำให้คุณเจ็บปวดจากการถูกทอดทิ้งก็ตาม มาเรียนโน่ ดิอาสก็เช่นกัน ที่ไม่มีวันลืมรีอัล มาดริดได้เลย

และหลังจากที่รีอัล มาดริด ได้สูญเสีย คริสเตียโน่ โรนัลโด้ไป สโมสรก็พยายามหานักเตะเข้ามาเสริมทัพ และกลบจุดอ่อนของทีม จากการที่เจ้าของดาวยิงตลอดกาลของสโมสรอย่าง โรนัลโด้ ได้ทิ้งไว้

และมันก็คงไม่มีใครในตอนนี้ที่ดูแล้วเหมาะสมและคุ้นเคยกับทีมเก่ามากกว่าเด็กเก่าอย่าง มาเรียนโน่ ดิอาส รวมไปถึง ทุกสิ่งทุกอย่างนั้นเป็นใจ

ทั้งในเรื่องของ ฆูเลน โลเปเตกี ผู้จัดการทีมคนปัจจุบัน ได้ชื่นชอบในฝืเท้าของมาเรียนโน่ ดิอาสอยู่แล้ว และรวมไปถึงสัญญาที่รีอัล มาดริด ได้ทำไว้ในเรื่องของการมีสิทธิ์ที่จะเป็นทีมที่สามารถซื้อ มาเรียนโน่ ดิอาส กลับมา และสิ่งที่สำคัญของการย้ายทีมกลับมารีอัล มาดริด เป็นครั้งที่ 2 ของ มาเรียนโน่ ดิอาส นั่นก็คือตัวของเขาเอง เพราะการยอมกลับมาหาคนที่เคยทอดทิ้งเขาในครั้งก่อน นั่นก็อาจเป็นเพราะว่าความรัก ที่ความกระหายที่จะพิสูจน์ตัวเองอีกครั้ง และต้องการเอาชนะความ ล้มเหลวในครั้งก่อนให้จงได้ และมีไม่กี่คนที่จะกล้าท้าทายความสำเร็จของตัวเองอีกครั้งจากบาดแผลของความผิดหวังที่เดิม และมาเรียนโน่ ดิอาส คือคนนั้น

เขาตอกย้ำความท้าทายของตัวเองเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ เมื่อเขาได้รับเสื้อหมายเลข 7 ที่ว่างอยู่ในทีมตอนนี้ เพื่อสวมใส่ให้กับรีอัล มาดริด ด้วยหลังจากที่เปิดตัวพร้อมกับเสื้อหมายเลขอันทรงคุณค่าของทีม ทำให้แฟนบอลราชันย์ชุดขาวเอง ต่างออกมาให้ความเห็นที่ไม่พอใจเป็นอย่างมากกับสโมสรที่ยอมมอบเสื้อหมายเลขระดับตำนานให้กับนักเตะที่เคยไร้ค่ากับสโมสรได้สวมใส่ได้อย่างไร แฟนบอลหลายคนอยากจะให้รีอัลมาดริดยกเลิกเบอร์เสื้อนี้สักพัก เพื่อเป็นเกียรติแก่เหล่าตำนานคนที่เคยสวมใส่ และรอให้ใครสักคนที่คู่ควร มาสวมใส่เสื้อหมายเลขนี้มากกว่ามาเรียนโน ่ ดิอาส

“สำหรับผมแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดไม่ใช่เบอร์เสื้อ มันเป็นความท้าทายและเป็นความภาคภูมิใจสำหรับผม ที่ได้สวมเสื้อเบอร์เดียวกับบรรดาตำนานหลาย ๆ คน ที่เคยสวมเสื้อเบอร์ 7 นี้”

มาเรียนโน่ ดิอาสกล่าว

ที่มา : tdedsiam.com